ประสบการณ์เช่าตู้นิรภัยที่ธนาคารกรุงเทพ

จริงๆเราเป็นมนุษย์ที่ ที่บ้านไม่ได้มีของมีค่าอะไรเท่าไหร่ แต่ก็มีของบางอย่างที่ได้มาจากผู้ใหญ่ท่านนั้น ท่านนี้ซึ่งเป็นของที่มีมูลค่าทางใจมากกว่ามูลค่าทางเงินทอง

เวลาไปเที่ยวไหนไกลๆ ไม่อยู่บ้านหลายวัน จะเกิดอาการกังวลตลอด
หรือล่าสุดให้ช่างมาทำกันสาดที่บ้าน ก็ต้องหาที่ทางเอาของไปเก็บที่อื่น ซึ่งลำบากลำบนเหมือนกัน
เลยดำริกับภรรยาว่า

เออ… เราไปหาเช่าเซฟที่ธนาคารดีกว่า ตู้เล็กๆก็พอ เอาไว้เก็บของเล็กๆน้อยๆ เวลาไปเที่ยวไหนก็จะได้ไม่ต้องกังวล

เลยไปไล่สอบถามมาฮะ ซึ่งพอจะทราบว่าแบงค์ส่วนใหญ่จะมีตู้เซฟให้เช่าอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเต็มหรือไม่ก็เก็บไว้ให้ลูกค้า VIP เช่าซะเป็นส่วนใหญ่ หรือบางที่ก็มีเงื่อนไขแบบยากๆ

ตอนแรกก็คิดไปว่าแบงค์ใหม่ๆ น่าจะมีที่เหลือให้เราเช่าบ้าง เลยไปถาม LH Bank ดู ก็ปรากฏว่ามีให้เช่านะฮะ
แต่ต้องฝากเงิน 1 ล้านบาท ไม่ก็ทำประกันประมาณหกหมื่นกว่าบาท

พอดีคุณแฟนทำงานที่ธนาคารกรุงเทพ ก็เลยไปแวะถามดูเล่นๆ (เพราะคิดว่าแบงค์ใหญ่น่าจะเต็มหมดแล้ว) ปรากฏว่ามีตู้ว่างแฮะ เป็นตู้เล็ก ขนาด 3x10x21 นิ้ว ราคาค่าเช่า 900 บาทต่อปีครับ ให้เช่าได้แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องซื้อประกันออมทรัพย์เบี้ยขั้นต่ำ 50,000 บาท

พอได้ข้อเสนอเลยมานั่งคิดหักลบกลบหนี้ดู เลยตัดสินใจเช่าซะ โดยเปลี่ยน Port ลงทุนของปีนี้หน่อย (ปกติไม่ได้ลงทุนในประเลย ซื้อแต่ประกันชีวิต)

 

วิธีการเช่า

อันนี้ง่ายๆครับ ไปติดต่อที่สำนักงานใหญ่แผนกเช่าตู้น่ะล่ะ แล้วเค้าจะมีใบให้เรากรอก ทั้งใบขอเช่าตู้และทำประกันออมทรัพย์ จากนั้นก็จ่ายตังค์ แล้วก็รับกุญแจมา 2 ดอก ซึ่งเหมือนกันแค่เป็นกุญแจสำรองเฉยๆ โดยธนาคารแจ้งว่าจะไม่มีกุญแจสำรองให้ ถ้าทำหาย ทำใหม่ก็ดอกละพันกว่าบาท ถ้าหาย 2 ดอก ก็ต้องเจาะตู้แล้วเปลี่ยนกุญแจใหม่ยกชุดเลย ราคาประมาณหกพัน ฮ่าๆ

รายละเอียดค่าเช่าก็ 900 บาทต่อปี แต่มีค่าประกันกุญแจ ประมาณ 2,700 บาท ซึ่งได้คืนเมื่อเลิกสัญญาเช่าครับ
ถ้าคิดว่าค่าเช่าต่อวันก็แค่ไม่ถึง 3 บาท ผมว่าก็คุ้มดี แลกกับที่ไม่ต้องกังวลทรัพย์สินในบ้าน

แล้วใช้งานยังไง

พอได้กุญแจแล้ว เค้าก็จะบอกให้เราลงไปดูตู้ฮะ ซึ่งเราต้องเขียนใบขอเปิดตู้ แล้วเอาไปให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลหน้าห้องนิรภัย ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของธนาคาร ซึ่งใบขอเปิดตู้ต้องเขียนทุกครั้ง ถึงเปิดตู้ได้ โดยหากเราต้องการให้ผู้ติดตามลงไปด้วย ก็ต้องเขียนใบมอบอำนาจชั่วคราวเป็นครั้งๆไป คนติดตามถึงลงไปได้ หรือถ้าไม่อยากเขียนทุกครั้งและคนติดตามเป็นคนเดิมเสมอ ก็เขียนใบมอบอำนาจถาวรได้ครับ

พอเขียนใบขอเปิดตู้แล้ว ก็ลงไปชั้นใต้ดินขอธนาคาร ก่อนลงไปก็ต้องเขียนบันทึกเวลาเข้าออกด้วย
จากนั้นก็เอาใบขอเปิดตู้ไปยื่นให้พนักงานหน้าห้องนิรภัย โดยพนักงานเค้าจะเอากุญแจคู่กับเรา ไปไขเปิดตู้ด้วยกันฮะ ซึ่งตู้นิรภัยนั้นจะต้องใช้กุญแจ 2 ดอกในการเปิด หนึ่งดอกของเรา แล้วก็หนึ่งดอกของธนาคาร ทำการเปิดพร้่อมกัน พอเปิดเสร็จพนักงานจะเดินจากไป ทิ้งเราไว้ให้ยกตู้ออกมาเอง แล้วก็ปิดล็อกเอง

ส่วนภายในห้องนิรภัยก็จะมีโต๊ะ แยกสัดส่วน รวมถึงมีห้องแยกให้เราไปจัดการทรัพย์สินของเราเองแบบเป็นส่วนตัว

ขนาดกล่องก็ใหญ่พอที่จะใส่ของมีค่าเช่นพวกเครื่องประดับ แล้วก็เอกสารสำคัญๆได้ครับ ซึ่งผมคิดว่าเท่านี้ก็เพียงพอล่ะกับของที่เรามี แต่ถ้าคนอื่นอาจจะอยากได้ตู้ใหญ่กว่านี้ ก็คงต้องลองสอบถามตามสาขาต่างๆดูครับ แต่ผมเลือกสนง.ใหญ่ เพราะใกล้ที่ทำงาน และดูอุ่นใจกว่า

พอจัดการของเสร็จก็เอาไปเก็บใส่ล๊อกของเรา แล้วก็ปิดล็อกตู้ครับ แล้วก็ออกไปได้เลย

ครั้งนี้ไปครั้งแรกเลยไม่กล้าเดินดูอะไรมาก เดี๋ยวรอบหลังๆ คงไปเดินสำรวจดูรอบๆหน่อย เพราะเห็นบางคนบอกว่า มาแอบนั่งทำงานที่นี่ได้ เงียบสงบดี (ฮา)

One thought on “ประสบการณ์เช่าตู้นิรภัยที่ธนาคารกรุงเทพ

  1. สอบถามค่ะ เราก็เป็นคนหนึ่งที่เช่าตู้ที่ธ.นี้ ตอนนี้ได้รับแจ้งปรับขึ้นราคาค่าเช่าเป็น2 เท่า เจ้าของ post โดนปรับขึ้นเป็นราคาเท่าไหร่คะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *